สอบ Compass Test (reading and writing skills) ตอนที่ 1

เนื่องจากเราต้องการสมัครเรียนหลักสูตรหนึ่งที่คอมมูนิตี้ คอลเลจแถวบ้าน จึงได้ไปเข้าฟังอินฟอเมชั่นเซสชั่นของหลักสูตร ปรากฏว่าหนึ่งในข้อกำหนดหลายๆอย่างของผู้ที่มีสิทธิ์สมัครก็คือ จะต้องเคยผ่านการเรียนภาษาอังกฤษในรหัสที่กำหนดโดยเอาทรานสคริปมาแสดง หรือ นำผลการสอบวัดผลตามที่คอลเลจกำหนดมาแสดง อย่างใดอย่างหนึ่งตามสามข้อด้านล่างนี้ (จริงๆ ในเว็บไซด์ของหลักสูตรก็มีบอกไว้ค่ะ)

1. ในกรณีเป็นนักเรียนที่ไม่ได้มีภาษาอังกฤษเป็นภาษาแรก (ESLEnglish as a Second Language students) ก็จะต้องไปสอบ CASASComprehensive Adult Student Assessment Systems ในส่วนของการฟังและอ่าน และต้องได้ 220 (ไม่มีค่าสอบ)
2. ถ้าเป็นนักเรียนการศึกษาผู้ใหญ่ (ABEAdult Basic Education students) ก็จะต้องไปสอบ Compass test ในส่วนของการอ่านและเขียน และต้องได้คะแนน 40 ขึ้นไป (ค่าสอบ $15)
3. ผ่านการเรียนภาษาอังกฤษรหัส 096, 097 หรือสูงกว่า

ตัว เรานั้นก็เข้าข่ายข้อที่หนึ่งก็คือเป็น นักเรียน ESL ก็กะว่าจะไปสอบ CASAS แต่ทว่าก็มีแอบหวังนิดๆว่าเราเคยเรียนภาษาอังฤษในระดับมหาวิทยาลัย(จากไทย) มาตั้งสี่ตัวอาจจะไม่ต้องสอบก็เลยกะจะเอาทรานสคริปติดตัวไปให้คุณครูดู แต่คุณครูบอกว่าเขาพิจารณาจากทรานสคริปอินเตอร์ของเราไม่ได้ แต่วว อ่านะไม่เป็นไรๆ แล้ว คะแนน TOEFLiBT หละคะคุณครูขารับพิจารณาไหมคะ คุณครูบอกว่าเราไม่ใช้คะแนน TOEFL ค่ะ เอ่ออออ….สรุปน้องส้มก็ต้องสอบค่ะ โอเคค่า สอบก็สอบค่าคุณครู น้องส้มสู้ตาย โอ้ CASAS เดี๋ยวเราเจอกัน ไม่เสียตังไม่เป็นไร

แต่ทว่าทันใดนั้น…

คุณครู: “เราปิดรับใบสมัครพรุ่งนี้นะคะ ใครที่ต้องสอบ CASAS ก็คงไม่ทันแล้วเพราะตารางสอบครั้งสุดท้ายที่จะได้ผลสอบทันพรุ่งนี้ก็คือ เมื่อเย็นที่ผ่านมานี่เองค่ะ”

นักเรียนส้ม: “…..” เริ่มบ่นงึมงำกับตัวเองและไมเคิลว่าสงสัยคงไม่ทันแล้วสำหรับควอเตอร์นี้ แต่เอาน่าขอลองอีกนิด ไม่รู้ไปอ่านมาจากไหน แต่จำได้ลางๆว่าถ้าได้เรียนภาษาอังกฤษในระดับคอจเลจมาแล้วก็ใช้สามารถแทนได้ ก็จึงได้เอื้อนเอ่ยไปว่า

นักเรียนส้ม: “ภาษาอังกฤษที่หนูเรียนมาแล้วก็เป็นในระดับมหาวิทยาลัยนะคะ แต่เป็นมหาวิทยาลัยนอกประเทศอเมริกา” คุณครูรับฟัง คาดว่าตอนแรกคุณครูนึกว่าเป็นทรานสคริปสมัยมัธยม แต่ถึงแม้จะคุณครูจะทราบแล้วว่าเป็นของระดับมหาวิทยาลัย แต่คุณครูก็ไม่สามารถพิจารณาแค่ทรานสคริปอินเตอร์ของเราแค่เพียงอย่างเดียวได้อยู่ดีค่ะ

คุณครู: “อ่า เคสนี้ทำไงดีไม่ค่อยมีมาเท่าไหร่ เอาเป็นว่านักเรียนส้มไปสอบ Compass test แทนแล้วกันนะคะ พรุ่งนี้ก็มีเปิดสอบ เค้ารับดรอปอิน*” แล้วคุณครูก็เดินไปหยิบเอกสารขั้นตอนสำหรับ Compass test มาให้

นักเรียนส้ม: “โอ้ โอเคค่ะ ขอบคุณค่ะคุณครู” เราทำใจดีสู้เสือพยักหน้าหงึกหงัก (กี๊ดด $15 ทำไมอันนี้ไม่ฟรีเหมือน CASAS น้ออ)

คุณครู: “พรุ่งนี้สอบเสร็จก็เอาผลไปให้ครูที่ห้องพักครูนะคะ ยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี”

นักเรียนส้ม: “ค่ะคุณครู ขอบคุณมากค่ะ”

คุณครู: “โอเคค่ะ บ๊ายบาย โชคดีค่ะนักเรียนส้ม”

นักเรียนส้ม: “ขอบคุณค่ะและสวัสดีค่ะคุณครู”
กรี๊ดดดด พรุ่งนี้สอบ มีเวลาเตรียมตัวมากเลย…แอบบ่นในใจ (จริงๆมีเวลาเตรียมตัวน้อยก็เครียดน้อยนะคะ เพราะสอบทีไรช่วงกดดันสุดก็เห็นจะเป็นช่วงที่อ่านหนังสือเตรียมสอบนี่แหละ ค่ะ แต่สอบบางอย่างไม่มีเวลาเตรียมตัวก็ไม่ได้นะคะ เพราะสามารถฟันธงได้เลยว่าเสียชีวิตอย่างอึ่งอ่างแน่นอน)

กลับมาถึงบ้าน รีบไปค้นคว้าว่า Compass Test นี่มันเป็นไงหนอขอดูตัวอย่างสักหน่อยสิ เพื่อความอุ่นใจ อันนี้เป็นเว็บไซด์อย่างเป็นทางการของ Compass Test ค่ะ เชิญคลิกได้ค่ะ หากสนใจชมตัวอย่างข้อสอบ การสอบนี้ไม่จำกัดเวลานะคะ มีให้เลือกสอบทั้งภาษาอังกฤษ (อ่าน, เขียน, เขียนเรียงความ) และเลข
เรานั้นต้องสอบภาษาอังกฤษอ่านและเขียน (จริงในเว็บของหลักสูตรบอกว่าขอแค่อ่าน แต่ในเอกสารที่ได้จากคุณครูบอกว่าขอทั้งอ่านและเขียน เลยเอาแน่ไว้ก่อนสอบมากดีกว่าสอบน้อย แถมจ่ายเท่ากัน นี่ถ้าไม่รีบอาจจะสอบเลขด้วย แอบงก) จากการประเมินตัวอย่างข้อสอบภาษาอังกฤษนี่ก็คาดว่าน่าจะพอไปได้ อย่างน้อยก็น่าจะได้ผ่านเกณฑ์ที่หลักสูตรต้องการ (40) ส่วนเลขนี่น่าจะได้เต็ม ก๊าาก แบบว่าไม่ต้องสอบไงคะเลยทำเป็นพูดได้ แต่จริงๆมันก็ไม่ยากเลยนะคะ คงเป็นเลขประมาณตอนที่เราเรียนมัธยมต้น+ปลายหน่ะค่ะ

ตอนเช้าประมาณเจ็ดโมง ตื่นไปสอบ (จริงๆ นอนไม่ค่อยหลับเท่าไหร่ เพราะก่อนหน้านั้นนอนตื่นสายซะ และมีแอบปอดฉีกนิดหน่อย) จัดการอะไรเรียบร้อยได้เข้าห้องสอบตอนประมาณสิบโมงเช้า (สอบที่ศูนย์สอบของคอลเลจค่ะ) เวลาผ่านไป 1 ชั่วโมง 41 นาที 1 วินาที เราก็สอบเสร็จสั่งพิมพ์รายงานผลคะแนน และเดินออกมานอกห้องสอบ เจ้าหน้าที่ก็ยื่นคะแนนให้

เจ้าหน้าที่: “ยินดีด้วยค่ะ ทำได้ดีนะคะ English placement ของนักเรียนส้มคือ ENGL 101 นะคะ” พร้อมตบไหล่เราสองที

เรานั้นได้ยินแบบไม่ถนัด อะไร placement placement ได้คะแนนเท่าไหร่หละหนิผ่าน 40 ป่าวเนี๊ยะ ขอกระดาษรายงานผลหน่อยค่ะ มามะคะแนนมาขอนักเรียนส้มยลหน่อย
พอเห็นก็……เห้อ ค่อยยังชั่ว ดูแต่คะแนนรวม(อ่านและเขียน)ได้….94 (จนบัดนี้ยังไม่แน่ใจเลยว่าหน่วยเป็นอะไร แต่ที่อ่านคร่าวจะมีหน่วยเป็น percentage โดนมีการคิดค่าถ่วงน้ำหนักตามความยากง่ายด้วย แต่ในใบรายงานของเราเขียนว่า Equal weighting is being used ก็เลยไม่รู้ว่าจริงๆเค้าคำนวณยังเหมือนกันค่ะ) แต่สรุปก็ผ่านเกณฑ์ค่า

เดี๋ยวตอนหน้าจะมาต่อด้วย ประสบการณ์ในการสอบและรายละเอียดของข้อสอบแต่ละส่วนนะคะ

* ดรอปอิน (drop-in) หมายถึง เราสามารถเข้าไปรับบริการได้เลยโดยไม่ต้องนัดล่วงหน้า ในที่นี้คือสามารถเข้าสอบได้โดยไม่ต้องนัดล่วงหน้าค่ะ ก็เหมือนกับวอคอิน (walk-in) อะค่ะ

This entry was posted in ประสบการณ์สอบ. Bookmark the permalink.

One Response to สอบ Compass Test (reading and writing skills) ตอนที่ 1

  1. เดียร์ says:

    เล่าหนุกดีนะเนี่ย อ่านไปขำไป จินตนาการตาม

Comments are closed.