เล่า เล่า ไม่มีชื่อเรื่อง

ช่วงนี้ก็ถือเป็นช่วงใกล้จะปลายปีแล้วอีกแค่สี่เดือนเท่านั้น ถือว่าไฟกำลังลน ร้อนขึ้นๆเลยทีเดียว งานยังไม่เสร็จเลย แล้วแถมมีงานเพิ่มขึ้นอีกต่างหาก พอดีที่บริษัมีโครงการให้พนักงานสามารถเสนอโปรเจ็คที่อยากจะทำและเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์ เป็นอินโนเวชั่นอะไรแบบนี้ กลุ่มเราก็มีห้าคนและมีไอเดียหลักๆอยู่สองหัวข้อคือ ไอเดียเริ่มต้นที่มาจากหัวหน้าทีมและของเรา เมื่อวานนี้ก็ได้ไปประชุมกลุ่มกับ โต้โผใหญ่ของโครงการนี้ซึ่งเขาก็เป็นประมาณผู้บริหารด้านเทคโนโลยีของบริษัท (CTO– Chief Technology Officer) ในทีมก็มีการนำเสนอไอเดียหลักๆ ว่าเป็นอย่างไร อยากจะทำอะไรกันบ้าง ตอนแรกพี่หัวหน้าทีมก็เริ่มจากไอเดียของเขาก่อนซึ่งเป็นไอเดียหลักของกลุ่ม ซึ่งมองแล้วค่อนข้างจะยากมากเอาการ เพราะเป็นโปรเจ็คที่ใหญ่มากและบุคคลกรยังขาดความรู้ในด้านความเป็นไปได้ของเทคโนโลยีว่าจะทำได้จริงหรือไม่ แต่ถ้าทำได้จริงคงเท่ไม่น้อย อิอิ

จากนั้นพี่หัวหน้าทีมก็ให้เรานำเสนอไอเดียอันที่สอง เราก็เล่าไปตอนแรกเสียงสั่นๆ ด้วยอะ ได้ฟังตัวเองเสียงสั่นๆ ก็ตลกดี จากนั้นก็เริ่มหายสั่นมีแต่ความนุ่มลุ่มลึก ห้าๆ แอบชอบเสียงตัวเองนิดหน่อย… พอพูดจบปรากฏคุณ CTO บอกว่าไอเดียน่าสนใจมาก เพราะด้านเทคโนโลยีก็ไม่มีปัญหา ทำได้แน่นอน คือเป็นการใส่ไอเดียด้าน business model เข้าไปโดยแอพพลายเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้ว แล้วเราก็ได้เสนอไปถึงแนวทางอื่นๆ ที่อาจจะเอาเชื่อมต่อขยายผลกับไอเดียได้อีก แต่ก็เป็นในลักษณะคร่าวๆ ยังไม่ลงในรายละเอียดมากนัก ระหว่างนั้นก็มีการพูดคุยเกี่ยวกับเทคโนโลยี โดยมีความคิดเห็นจากทุกๆคน ทำให้มีมุมมองที่จะคิดต่อไปได้อีก ชอบจังเลยการพูดคุยแบบนี้ สนุกดี สรุปคือปลายเดือนนี้ทีมเราก็จะมีประชุมกับคุณ CTO อีกโดยจะเป็นในรายละเอียดเชิงลึกมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้เราและทีมต้องไปค้นคว้าเพิ่มเติมอีกอย่างมากในทุกๆ แง่มุมที่เห็นว่าเกี่ยวข้อง เพื่อนำมาวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของโครงการ ได้งานเพิ่มมาอีกงาน หึหึ… กรี๊ดดดดดด งานเดิมในหน้าที่ยังไม่เสร็จเลย แต่เอาเถอะต้องทำได้ ทำได้ บ่นๆเพื่อความครื้นเครง ไม่ว่ากันนะคะ ถ้าโครงการนี้ได้เกิดและไปได้ดีคงตื่นเต้นบวกภูมิใจกันน่าดู สู้ๆนะเพื่อนๆ แต่กว่าจะได้เกิดนี่คงต้องอีกหลายขั้น แล้วก็ต้องผ่านการนำเสนอต่อผู้บริหารระดับสูง (คนที่จะอนุมัติเงินทุนไง อิอิ) น่าตื่นเต้นนะนี่นะ ต้องรอดูกันต่อไป…. ตอนนี้ก็อิ่มอกอิ่มใจนิดหน่อยที่มีคนเห็นว่าไอเดียของเรามันเข้าท่า

พอประชุมเสร็จก็ห้าโมงเย็นแล้ว เช็คเมลล์นิดหน่อย เสร็จแล้วก็เก็บสัมภาระเตรียมตัวไปงาน party ของบริษัทแต่จัดที่อีกตึกนึง ก็ได้ติดรถพี่โอหัวหน้าทีมไป งานครั้งนี้เป็นงานที่จัดเพื่อสุขสันต์วันเกิดให้คนในกลุ่ม Dek-D (D มาจากคำว่า developer) ที่เกิดในช่วงควอเตอร์ที่สามของปีนี้ งานสนุกดี สถานที่ตกแต่งสวย เกมสนุก อาหารก็ดี เราเองได้มีส่วนไปช่วยทีมงานนิดหน่อย คือไปช่วยตัดกระดาษ (พวกงานศิลปะ แอ๊ดว๊านซ มากมากนี่ทำไม่ได้อ่ะค่ะ) แล้วก็ไปเป็นคนสัมภาษณ์ managers ของแผนกต่างๆที่อยู่ในกลุ่ม Dek-D เพื่อนำมาตัดต่อเอามาแสดงเป็น video presentation ในงาน เห็นตัวเองบนจอก็ตลกดี บางมุมดูตัวใหญ่มาก นั่งใกล้กล้องไปหน่อย แต่ทุกอย่างทีมงานเค้าเตรียมมาดีและทำออกมาได้น่ารัก ชื่นชมๆ
ช่วงเล่นเกมมีเกมเสริมสร้างความสามัคคี โดยทีมงานจะตัดรูป managers ออกเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมรูปละ 12 แผ่นและไปเอาไปติดไว้ใต้เก้าอี้ แล้วให้แต่ละคนช่วยกันต่อรูปออกมา โดยมีโค้ดเขียนอยู่ด้านหลัง ของเราได้โค้ดว่า “หมีแพนด้า” ซึ่งเราเห็นส่วนหนึ่งของหน้าในรูปก็จำได้ว่าเป็น manager ของเราเอง แถมปรากฏว่า manager เองก็ได้โค้ดหมีแพนด้าเหมือนกัน ได้รูปตัวเอง… อิอิ เราก็ไปตะโกนๆ วิ่งพล่านไปทั่วห้อง ตะโกนหาคนอื่นๆ ที่ได้ชิ้นส่วนที่มีโค้ดหมีแพนด้า
บางทีรู้สึกเหมือนกำลังร้องเพลงเลย “หมีแพนด้า หมีแพนด้า หมีแพนด้าาาาา” ขำดี พอได้ได้ครบก็ต่อลงฐานกระดาษที่ทีมงานทำเป็นกรอบรูปเตรียมไว้ให้ ไอเดียน่ารักและทำออกมาได้สวยเลย แล้วสุดท้ายก็มีการส่งตัวแทนออกมามอบรูปที่ต่อใส่กรอบเสร็จแล้วให้แด่ managers ทุกคน เกมนี้สนุกและน่ารักดี ได้ออกกำลังกาย วิ่งไปวิ่งมาด้วย หลังจากอิ่มมม.. อิอิ

เราไปห้องน้ำกลับมาสรุปว่าต้องขึ้นไปเล่นเกมบนเวที ตอนแรกมีประมาณ 12 คน แพ้คัดออกไปเรื่อยๆ

เกมแรก เป็นเกม “แทนคำนามในสุภาษิตไทย”
กติกา คือ แบ่งออกเป็นสองทีม แข่งกันทีละคู่ ให้พูดสุภาษิตไทยโดยแทนที่คำนามในสุภาษิตนั้นด้วยคำที่กำหนด และต้องตอบโต้ภายในช่วงเวลาประมาณสามวินาทีหลังจากฝ่ายตรงข้ามพูดจบ (พิธีกร นับ 1 2 3) คนแพ้โดนขีดหน้ากับลิปสติก และสุดท้ายทีมที่คะแนนรวมต่ำกว่าก็จะต้องแพ้และออกไป เมื่อวานคำที่กำหนด คือคำว่า “หอย” ลองคิดดูนะว่ามันจะเป็นไงบ้าง บางอันก็ออกมาฮาดีจริงๆ เกมนี้ทีมเราชนะแบบนิ่มๆ ได้เข้าไปในรอบถัดไป

เกมที่สอง เป็นเกม “แน่นอนอยู่แล้ว”
กติกาใครถามอะไรมาเราต้องตอบว่า “แน่นอนอยู่แล้ว” แล้วถามคำถามกลับไปทันที สรุปเกมนี้ทีมที่เราอยู่ก็ชนะอีก

เกมสุดท้าย เป็นเกม “5..6..บรึ๋ย”
กติกา นับเลขไปเรื่อยๆ แต่ถ้าเป็นเลขที่หารด้วย 7 ลงตัว หรือลงท้ายด้วย 7 จะต้องพูดคำว่า “บรึ๋ย” ถึงตอนนี้เหลือแค่สามคนบนเวที แข่งไปแข่งมา เลยเรากับพี่อีกคน สรุปเราได้ที่สอง หละ ผิดจนได้ครั้งแรกที่เลข 42 ครั้งที่สองตรงเลข 50 ครั้งที่สองเอ๋อมากมาก ทั้งที่ 49 พี่เค้าเพิ่งพูดบรึ๋ยไป พอ 50 เราก็พูดบรึ๋ยอีก แถมยืนอยู่ตั้งนานถึงได้รู้ว่าผิด สติมันไปเที่ยวไหนไม่รู้ ว่าแล้วเชียวเกมนี้ต้องไม่ชนะแหงม ห้าๆ พอลงมามีแต่คนบอกว่า นึกว่าส้มจะชนะชัวร์นะนี่ แป่วว…หนูจิตแอบบไปเที่ยวค่ะพี่..ถึงจิตอยู่ก้ไม่แน่ว่าจะหารถูก ห้าๆ ได้ของรางวัลมาเป็น เครื่องสังฆธานในถังเหลืองชุดขนาดกลาง คนที่ได้ที่หนึ่งได้ชุดใหญ่ อิอิ น่ารักดี สนุกๆ
เกมพวกนี้เอาไอเดียไว้ไปเล่นได้นะคะ เวลามีงาน มีค่ายอะไรอย่างนี้

กลับมาถึงบ้านสี่ทุ่มกว่าแล้ว กว่าจะได้นอนก็เกือบตีสาม รู้สึกว่าหน้าตาน่ากลัวมาก ใต้ตา หน้า หมองคล้ำ วันนี้เลยตื่นเที่ยงกว่าเลย จริงๆตื่นมาตอน 9 โมงแล้วนอนต่อ ยาว…ไปหน่อย วันนี้ยังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย คงต้องเริ่มแล้ว เดี๋ยวจะหาว่าไม่ตื่น ตนเตือนตนให้พ้นผิด สาธุ…

ปล.
ขอบันทึกไว้หน่อยว่า วันพฤหัสที่ 9 สิงหาคม 2550 ตอนเกือบ 6 โมงเย็น รถแท๊กซี่ที่นั่งมาโดนรถเมล์ชนท้าย เราก็ไหลไปกระแทกกับเบาะหน้า วันรุ่งเช้าเริ่มเมื่อย และเป็นต่ออีกประมาณ 2 วัน …อย่างไรก็ตามวันนั้นเป็นวันดีเพราะได้ทำอะไรที่อยากทำมาตั้งนานแล้ว ดีใจจัง…

This entry was posted in Uncategorized. Bookmark the permalink.

One Response to เล่า เล่า ไม่มีชื่อเรื่อง

  1. เป็นกิจกรรมที่น่าสนุกนะ ไม่ได้ร่วมกิจกรรมแบบนี้มานานละ

    ขนาดไม่รู้ว่าโครงการที่เสนอคืออะไร แต่ฟังดูน่าสนใจ บริษัทสนใจที่ปรึกษาไหมเนี่ย

Comments are closed.